วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562

พญาศรีสัตตนาคสมุทรเทวา( Saka naga )นาคสีเขียวน้ำทะเล บุตรพระนางกัทรุ

#พญานาคสักกะระ หรือ #พญาศรีสัตตะนาคสมุทรเทวา





เป็นพญานาค สีเขียวปนฟ้า เหมือนน้ำทะเลสีเขียว ดวงตาสีม่วงเข้ม ท้องสีขาว

เป็นนาคทะเล เป็น บุตรชายของ พระนางกัทรุ กับ พระกัศยประพรหม เทพบิดร



พระศิวะ มีคำสั่งให้ ท้าวพญานาคสักกะระ

มาดูแล อาณาเขตแถบ แม่น้ำโขงตอนล่าง

กับแถบ ทะเลฝั่งอ่าวไทย

ขอน้อมกราบสักการะท่านพ่อศรีสัตตนาคราช ท่านแม่ศรีสัตญาณีเทวี

คาถาบูชา
พญาศรีสัตตนาคสมุทรเทวาและพญานาคีศรีสัตตญาณีเทวี

โอมศรีสัตตะราชันต์สมุทรเทวะ พญานาคีศรีสัตญาณีมหานาคะ มหานาคี เทวีนาคกัลยาณี มหานาคะ เทวา ชะยะ เตตี เตติ ประสิทธิลาโภ  เมตตัญ มหาลาโภ ปิโยนาคะ ขันธปริตตัง




ตำนาน"พญาศรีสัตตนาคราช"
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเมืองนครพนม!!
(เมื่อบวงสรวงที่คำชะโนดเสร็จ นี้เป็นจุดที่ 2 คณะจะเดินทางไปสักการะ)

พญาศรีสัตตะนาคสมุทรเทวา 1 องค์นาคาธิบดี ทั้ง 9 ทรงเป็นนาคบริสุทธ์ อาวุโสรุ่นที่ 1 กำเนิดจากไข่ 1000 ฟอง จากนางมัทรุ และ พระฤษีเทพบิดรกัสสยปะ
1 พญาอนันตนาคราช
2 พญาวาสุกรีนาคราช
3 พญากาละภุชคินทร์
4 พญาภุชงค์นาคราช
5 พญามุจรินทร์นาคราช
6 พญาศรีสัตตบันนาคสมุทร
7 พญาศรีสรรเพชรนาคราช
พระมเหสีคู่บารมี รัตนาวดีนาคินีนาฏ มีพระราชธิดาพระนามว่า อริญธิญาเทวี
สีพระวรกายแสดทอง พระองค์ เนตรนัยตาสีแดงอมส้มแสด
เป็นนาคราช สมุทรสายฮินดู
สีพระวรกายเจ้าย่ารัตนาวดี สีขาวอมม่วงอ่อน ขลิบทอง เนตรนัยตา นิลอมน้ำเงิน
ส่วนองค์ ธนบดีศรีสัตตบันหรือ เจ้าหล้า เป็นกษัตรย์ปกครองฝั่งลาว พระชายาคือ พระนางปิ่นมณี เป็น พระขนิษฐา เจ้าย่าศรีปทุม เจ้าหล้าทรงเป็นราชสถาปนิคในวังบาดาลชั้นสูงมีฤทธ์เยอะ เนื่องจากทรง เป็นลูกครึ่งมนุษย์ครึ่งนาค จึงทรงแปลงกายเป็นมานพไดัง่ายกว่านาคราชทั่วไป
พญาศรีสัตตนาคราชสมุทรเทวา ทรงเป็น 1 ในองค์นาคาธิบดีทั้ง 9 จะคนละพระองค์กับ องค์ธนบดีศรีสัตตบัน หรือเจ้าหล้าซึ่ง เป็น กษัตริย์ฝั่งลาว

พญาธนบดี ศรีสัตตนาคบาดาล หรือจ้าวหล้าฯ
เป็นพญานาคที่อยู่ในตระกลูเอราปัถถะมีพระวรกายสีเขียว ปล้องพระนาภีและพระเศียรเป็นสีทองพระองค์เป็นคนครึ่งพญานาค เพราะท่านมีพระบิดาเป็นมนุษย์ ส่วนพระมารดาของท่านนั้นเป็นพญานาคีพระราชธิดาของพญาสนธินาคราช และพญาศรีภาวนานาคิณีจ้าวหล้าฯ สามารถเนรมิตอินทรีย์เป็นพญานาคหรือเป็นมานพหนุ่มได้ง่ายกว่าพญานาคราชทั่วไป จะมาในกายของมานพหนุ่มนุ่งห่มสีเขียวมรกตหรือถ้าในช่วงเข้าพรรษาก็จะแต่งองค์ทรงภูษาสีขาวปักเหลื่อมพรรณรายสีมุก เป็นประกายสีเงินยวงเจิดจำรัส


  เผ่าพันธุ์ของ"พญามุจลินท์นาคราช" คือ "พญานาค 7 เศียร" ได้สืบสายพันธุ์มาจนถึง "พญาศรีสัตตนาคราช (นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล)" เชื่อกันว่าเป็น"กษัตริย์แห่งพญานาคฝั่งลาว" ส่วนฝั่งไทยนั้นมี "พญาศรีสุทโธนาคราช (นาคาธิบดีสีสุทโธ)" เป็น "กษัตริย์พญานาคฝั่งไทย"!! แต่เป็น "พญานาคเศียรเดียว" ซึ่งเล่ากันว่า สองราชาพญานาคคู่นี้เป็นสหายซี้ปึกกัน!!

  เรื่องราว"ราชาแห่งนาค"ทั้งสองตนนี้ "หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ" เกจิอาจารย์ชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย เคยเล่าไว้ดังนี้.. ในผืนน้ำของประเทศไทยเรา มีพญานาคราชเป็นใหญ่นามกรว่า "พญาศรีสุทโธฯ" ชอบการจำศีลบำเพ็ญเพียร และปฏิบัติธรรม นิสัยอ่อนโยนมีเมตตา ไม่ชอบการต่อสู้ เข้าข่ายเป็นพญานาคผู้น่ารักนับถือ ส่วนฝั่งลาวนั้น มี "พญาศรีสัตตนาคราช" เป็นใหญ่เหนือพญานาคทั้งปวง ที่ทรงฤทธิ์มีอำนาจเหนือกว่าพญานาคทั้งหลายในสองแผ่นดินไทย-ลาว ถึงท่านเป็นพญานาคที่มีฤทธิ์เดช แต่ก็ชอบการจำศีลภาวนา และประพฤติปฏิบัติธรรมเหมือน"พญาศรีสุทโธนาคราช" มีตำนานกล่าวว่าท่านชอบมาที่วัดพระธาตุพนมเหมือนกัน จนถึงกับมีการทำ MOU ให้พันธะสัญญาแก่กันว่า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการความช่วยเหลือ ก็จะช่วยกันอย่างเต็มที่เต็มกำลังความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้อยใหญ่ประการใด..!!


  " พญาศรีสัตตนาคราช" มีความเด่นสง่าเหนือกว่าใครเพราะมี 7 เศียร ลำตัวเดียว ถือได้ว่าเป็น"ตระกูลพญานาค"ที่สืบสายพันธุ์มาแต่ครั้งพุทธกาล มีความใกล้ชิดพระพุทธองค์ และพระพุทธศาสนา จนอาจถือว่าเป็นต้นตระกูลแห่งพญานาคทั้งหลายทั้งปวง


  หลวงปู่คำพันธ์ท่านยังได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจอีกว่า "ส่วนใดที่อยู่ใกล้ต้นน้ำลำธาร หรือหากมีพิธีกรรมอันใดเกิดขึ้น ให้อัญเชิญบอกกล่าวแก่เหล่าพญานาค พิธีกรรมนั้นจะศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก.." จึงไม่แปลกใจทำไม!! คนในลุ่มน้ำโขงทั้งสองฟากฝั่งไทย-ลาว ถึงเคารพศรัทธาต่อองค์ญานาคเป็นนักเป็นหนา คงมาจากเหตุผลที่หลวงปู่ท่านเมตตา บอกกล่าวข้างต้นให้ลูกหลานลูกแม่น้ำโขง หมั่นประพฤติปฏิบัติสืบกันมานั่นเอง..


  ต้นกำเนิด"พญาศรีสัตตนาคราช" ริมฝั่งแม่น้ำโขง แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัด ได้รับการเปิดเผยจาก นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ. ว่า เนื่องจากการเติบโตของการท่องเที่ยวในจังหวัดที่มีอย่างต่อเนื่องเพราะมีสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย ทั้งที่เป็นโบราณสถาน โบราณวัตถุ สถานที่รำลึกประวัติศาสตร์ที่สำคัญ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมถึงที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวนครพนม โดยเฉพาะ"เส้นทาง 3 ที่สุด!!" ของนครพนม ประกอบไปด้วย"สวยที่สุด" คือ..สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 นครพนม - คำม่วน "งามที่สุด" ในเรื่องวิวทิวทัศน์ริมสองฝั่งโขง และ "ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด" อย่างองค์พระธาตุพนม แต่อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพ ในด้านการท่องเที่ยวเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว เข้ามาในพื้นที่ให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะช่วงนี้ประตูอาเซียนเปิดอ้าแล้วนั้นหมายถึงเม็ดเงิน ที่จะก่อให้เกิดเป็นรายได้กับพี่น้องประชาชนจำนวนมหาศาล อันจะเป็นการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน!!

คำนมัสการหลวงพ่อพระเจ้าศรีโสภณสัตตนาค หรือ พญาศรีสัตตนาคราช (เจ้าพญานาค)

นะโม... ... 3 จบ

พุทธัง อาราธนานัง กะโรมิ
ธัมมัง อาราธนานัง กะโรมิ
สังฆัง อาราธนานัง กะโรมิ

โยโส ภะคะวา สิริโสภโณ อิทธิสัมนปํนโน
คะรุกะโต มานิโต ปูชิโต อะปะจิโต
พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ
สัพพะโรคะโสกุปัททะวะ ทุกขะโทมนัสสะ
สุปายาสา วินัสสันตุ อุตตุอัด ผะผะอัด
ปุญญังสุขัง ชีวิตตะสังขะยัมหิ

...แปล
สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าศีโสภณสัตตนาค
ผู้ทรงถึงพร้อมด้วยฤทธานุภาพ พระองค์ใดที่ข้าพเจ้า
เคารพนับถือบูชากราบไหว้ ด้วยเศียรเกล้าแล้ว
ด้วยพุทธนุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ
ขอให้สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย
สัพพะเสนียดจัญไร จงวินาศสูญไปด้วยพุทธคาถาว่า
" อุตตุอัด ผะผะอัดปุญญังสุขัง ชีวิตตะสังขะยัมหิ " ด้วยเทญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น