พญาอนันตนาคราช ในคัมภีร์มัสยาปุราณะ ระบุไว้ชัดเจนว่าเป็น
พญานาคสีขาว ในตระกูลฉัพยาปุตตะ
ราชาแห่งนาคทั้งมวลในตำนวนของฮินดู อนันตเศษ (อะ-นัน-ตะ-เส-สะ) หรือ อนันตนาคราช มีขนาดตัวเป็นอนันต์สมชื่อ เพราะเป็นผู้นอนอยู่ในเกษียรสมุทรและให้พระนารายณ์นอนบนหลัง บางตำนานเล่าว่าดาวนพเคราะห์นั้นก็ตั้งอยู่บนพังพานของอนันตนาคราช ส่วนหัวซึ่งมีตั้งแต่ห้าหัวถึงหนึ่งพันนั้นไม่พ่นพิษเหมือนนาคอื่นๆแต่เป็นเปลวไฟ และอนันตนาคราชก็จะร้องเพลงสรรเสิญบารมีของพระนารายณ์เป็นนิจ
ในตำนานเล่าว่าตอนที่เหล่านาคเล่นโกง ที่แม่ไปพนันกับนางวินตาซึ่งเป็นแม่ของพญาครุฑ (ทั้งคู่พนันสีม้าของพระอาทิตย์ เหล่านาคนั้นพ่นพิษใส่จนหางของม้าพระอาทิตย์เป็นสีดำ บ้างก็ว่าเหล่านาคตัวเล็กๆได้เลื้อยเข้าไปแทรกในขนสีขาวจนดูสีดำเป็นหย่อม) อนันตเศษนั้นรังเกียจบรรดาน้องๆเลยหนีไปจำศีลอยู่ตัวเดียว เวลาผ่านไปพระพรหมก็มาเจอเข้า เมื่อทราบว่าอนันตเศษไม่ชอบใจที่น้องโกงพนันเลยให้ไปนอนในเกษียรสมุทรเป็นเตียงให้พระนารายณ์ คำสาปที่ทำให้ครุฑจับนาคกินได้จึงไม่รวมถึงอนันตเศษด้วย
ตำนานที่ดุเดือดของอนัตเศษที่สุดนั้นกล่าวว่าครั้งหนึ่งอนันตเศษเคยโผล่หัวขึ้นไปบนสวรรค์ (ไม่ใช่มุข เพราะตัวยาวจนไม่ต้องขึ้นไปทั้งตัว) และโอ้อวดกับเหล่าเทวดาว่า ในสามโลกนี้มีแต่ตรีมูรติเท่านั้นที่มีอำนาจเหนือตน หากใครไม่เชื่อแล้วก็จงมาประลองกำลังกันเถิด เหล่าเทวดากลัวหัวหด มีแต่พระพายที่กล้าพอ คิดว่าอย่างไรนาคตัวนี้ก็เป็นแค่ดิรัจฉาน การจำมาท้าตีท้าต่อยกับเทวดาจึงนับว่าโอหังนัก
พระพายรับคำท้า ว่าแล้วพญาอนันตนาคราชก็เอาตัวเองพันรอบภูเขาลูกหนึ่งไว้ บอกว่าให้พระพายลองทำลายภูเขานี้ดู พระพายนั้นใช้กำลังสร้างพายุรุนแรงหมายจะพัดทำลายภูเขานั้นให้ยับเยิน แต่อนันตเศษก็ขยายตัวเองให้ใหญ่ขึ้นแล้วแผ่พังพานป้องไว้ได้ทุกครั้ง สุดท้ายพระพายจึงทุ่มกำลังทั้งหมดเข้าโจมตีโดยดึงเอาลมในตัวสัตว์โลกทั้งมวลมาใช้ด้วย แต่ก็ถูกอนันตเศษกลืนเข้าไปทั้งตัว ทีนี้เมื่อไม่มีพระพายแล้ว สัตว์โลกทั้งหลายก็หายใจไม่ออก ร้อนถึงพระนารายณ์ต้องมาบอกเตียงหลังโปรดให้คายพระพายออกมา อนัตนาคราชทำตาม ปรากฏว่าตอนที่อนันตนาคราชคายพระพายมานั้นก็บังเกิดเป็นลมรุนแรงพัดไปโดนภูเขาที่พันไว้จนราบเป็นหน้ากลอง ทั้งพระพายและอนันตนาคราชต่างก็นับถือในกำลังของกันและกัน เลยตกลงว่าการประลองครั้งนี้เป็นเสมอ
บางที่ที่ค้นเจอ ยกบทนาคที่พันเขาพระสุเมรุไว้ตอนกวนเกษียรสมุทรให้อนันตนาคราชด้วย แต่จริงๆแล้วนาคที่รับบทนี้ก็คือพญาวาสุกี
6 กุมภาพันธ์ 2010
 ถูกใจ x 11 ดูรายการ

tumkukเป็นที่รู้จักกันดี
ราชาแห่งนาคทั้งมวลในตำนวนของฮินดู อนันตเศษ (อะ-นัน-ตะ-เส-สะ) หรือ อนันตนาคราช มีขนาดตัวเป็นอนันต์สมชื่อ เพราะเป็นผู้นอนอยู่ในเกษียรสมุทรและให้พระนารายณ์นอนบนหลัง บางตำนานเล่าว่าดาวนพเคราะห์นั้นก็ตั้งอยู่บนพังพานของอนันตนาคราช ส่วนหัวซึ่งมีตั้งแต่ห้าหัวถึงหนึ่งพันนั้นไม่พ่นพิษเหมือนนาคอื่นๆแต่เป็นเปลวไฟ และอนันตนาคราชก็จะร้องเพลงสรรเสิญบารมีของพระนารายณ์เป็นนิจ
ในตำนานเล่าว่าตอนที่เหล่านาคเล่นโกง ที่แม่ไปพนันกับนางวินตาซึ่งเป็นแม่ของพญาครุฑ (ทั้งคู่พนันสีม้าของพระอาทิตย์ เหล่านาคนั้นพ่นพิษใส่จนหางของม้าพระอาทิตย์เป็นสีดำ บ้างก็ว่าเหล่านาคตัวเล็กๆได้เลื้อยเข้าไปแทรกในขนสีขาวจนดูสีดำเป็นหย่อม) อนันตเศษนั้นรังเกียจบรรดาน้องๆเลยหนีไปจำศีลอยู่ตัวเดียว เวลาผ่านไปพระพรหมก็มาเจอเข้า เมื่อทราบว่าอนันตเศษไม่ชอบใจที่น้องโกงพนันเลยให้ไปนอนในเกษียรสมุทรเป็นเตียงให้พระนารายณ์ คำสาปที่ทำให้ครุฑจับนาคกินได้จึงไม่รวมถึงอนันตเศษด้วย
ตำนานที่ดุเดือดของอนัตเศษที่สุดนั้นกล่าวว่าครั้งหนึ่งอนันตเศษเคยโผล่หัวขึ้นไปบนสวรรค์ (ไม่ใช่มุข เพราะตัวยาวจนไม่ต้องขึ้นไปทั้งตัว) และโอ้อวดกับเหล่าเทวดาว่า ในสามโลกนี้มีแต่ตรีมูรติเท่านั้นที่มีอำนาจเหนือตน หากใครไม่เชื่อแล้วก็จงมาประลองกำลังกันเถิด เหล่าเทวดากลัวหัวหด มีแต่พระพายที่กล้าพอ คิดว่าอย่างไรนาคตัวนี้ก็เป็นแค่ดิรัจฉาน การจำมาท้าตีท้าต่อยกับเทวดาจึงนับว่าโอหังนัก
พระพายรับคำท้า ว่าแล้วพญาอนันตนาคราชก็เอาตัวเองพันรอบภูเขาลูกหนึ่งไว้ บอกว่าให้พระพายลองทำลายภูเขานี้ดู พระพายนั้นใช้กำลังสร้างพายุรุนแรงหมายจะพัดทำลายภูเขานั้นให้ยับเยิน แต่อนันตเศษก็ขยายตัวเองให้ใหญ่ขึ้นแล้วแผ่พังพานป้องไว้ได้ทุกครั้ง สุดท้ายพระพายจึงทุ่มกำลังทั้งหมดเข้าโจมตีโดยดึงเอาลมในตัวสัตว์โลกทั้งมวลมาใช้ด้วย แต่ก็ถูกอนันตเศษกลืนเข้าไปทั้งตัว ทีนี้เมื่อไม่มีพระพายแล้ว สัตว์โลกทั้งหลายก็หายใจไม่ออก ร้อนถึงพระนารายณ์ต้องมาบอกเตียงหลังโปรดให้คายพระพายออกมา อนัตนาคราชทำตาม ปรากฏว่าตอนที่อนันตนาคราชคายพระพายมานั้นก็บังเกิดเป็นลมรุนแรงพัดไปโดนภูเขาที่พันไว้จนราบเป็นหน้ากลอง ทั้งพระพายและอนันตนาคราชต่างก็นับถือในกำลังของกันและกัน เลยตกลงว่าการประลองครั้งนี้เป็นเสมอ
บางที่ที่ค้นเจอ ยกบทนาคที่พันเขาพระสุเมรุไว้ตอนกวนเกษียรสมุทรให้อนันตนาคราชด้วย แต่จริงๆแล้วนาคที่รับบทนี้ก็คือพญาวาสุกี
6 กุมภาพันธ์ 2010
มนตร์บูชาพญาอนันตนาคราช
นาคเทวะ ปรี ตา ภวันติหะ คานติมาปโนติ เวน วิภี/
สัมศานติ โลก มา สาทยะ โมทเต ศาศติช สมาช//
มนตร์นี้เป็นภาษาที่พราหมณ์อินเดียใช้ในการบูชาค่ะ
และวันที่จะบูชาจะตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำเดือนศราวัน(เดือนกรกฏาคม-สิงหาคม)ของทุกปีค่ะ ซึ่งจะเรียกว่า"วัน นาค ปัญจมี "
คาถาอัญเชิญพญานาค
ตั้งนะโม 3 จบ
นะมามิ ลิละ สาเข ปัตถะ ละปะ ธัมเม สะคะลับตี สะเยตานาคะ ลาเชนะยะ
ปิสะโตฯ
พระคาถาถวายการสักการะบูชา
เอหิสังคัง ปิโยนาคะ สุปันนานัง มะยัง
หรือกล่าวเฉพาะ
กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา (ชื่อพระนามอย่างเช่น องค์ วาสุกรีนาคราช,อนันตนาคราช,ภุชงค์นาคราช,นาคาธิบดีศรีสุทโธ,) วิสุทธิเทวาปูเชมิ ถ้าเป็นองค์นางพญานาคี ก็เปลี่ยนเป็น นางพญานาคิณีศรีปทุมมา วิสุทธิเทวีปูเชมิ
(เช่น กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา วาสุกรีนาคราช วิสุทธิเทวาปูเชมิ
หรือ
กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดีศรีสุทโธ วิสุทธิเทวาปูเชมิ
หรือ
กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา นางพญานาคิณีศรีปทุมมา วิสุทธิเทวีปูเชมิ)
คาถาบูชาอีกบทหนึ่ง
นาคเทวะ ปรี ตา ภวันติหะ คานติมาปโนติ เวน วิภี สัมศานติ โลก มา สาทยะ โมทเต ศาศติช สมาช
หรือกล่าวย่อ คือ
คัด สะ มะ อุ มะ (9 จบ)
14 มกราคม 2010
ที่มา
https://palungjit.org/threads/%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A.213807/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น